ดวงโดยทั่วไปจะหมายถึง ดวงดาว (มีความเชื่อว่าการเคลื่อนที่ของดวงดาวสามารถอธิบายชีวิตคนได้) แต่การอธิบายชีวิตคน และดวงชะตาของคนในระดับจิตนั้น ดวงในที่นี่จึงหมายถึงดวงจิต (Psychic)
การอธิบายโดยการวิเคราะห์ดวงชะตาโดยดวงดาวนั้น หมอดูสามารถฝึกหัดศึกษากันเองได้จากตำรับตำราแล้ว ก็มีความสามารถแตกต่างกันไปอีกด้วย หมอดูสองคนอาจทายเรื่องเดียวกันไปคนละทิศทางก็ได้ ดวงเกิดที่ตรงกันอาจมีแนวโน้มที่คำทำนายที่ตายตัวจะออกมาเหมือนกันเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์อีกด้วย
Psychic Reading ดวงชะตาในระดับจิตมีแนวทางที่แตกต่างออกไป ลึกซึ้ง โดยผู้ทำนายจะฝึกฝนดวงจิตตนเอง หรือดำรงตนอยู่ในลักษณะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (เช่นร่างทรง ฤษี พระ หรือคนที่มีของดี ) ทำให้มีจิตที่เหนือกว่าคนทั่วๆไป จึงสามารอ่านดวงจิตของคนอื่นๆ บางท่านใช้พิธีการทางไสยศาสตร์ในการเจาะดวงจิต(เช่น พี่หมอ) จึงทำให้การหยั่งรู้ในการทำนายได้แบบทะลุมิติเลยทีเดียว ในภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า “Superstition” ผู้ทำนายจะต้องมีจิตที่เหนือกว่าเป็นผู้ประเสริฐ เป็นไสย ที่แตกแขนงในการใช้จิตในเรื่องต่างๆ ได้ จนกลายเป็นศาสตร์ที่เรียกว่า “ไสยศาสตร์”
เมื่อจิตยังผสานกับกายเนื้อ(ยังมีชีวิต) ในการกระทำกิจกรรมทุกๆ อย่างของคนจะต้องใช้จิตในการกระทำกิจกรรมนั้นๆ เสมอ อย่างเช่น การคิด การโกรธ การรัก การเจ็บปวด มีความสุข พอใจ สนุก ฯลฯ ผสมผสาน กันไปทุกวินาที ตลอดชีวิตของคน ผสมผสานกันออกมาเป็นพฤติกรรมของคนนั้นๆ เช่น นายA อายุ 35 ปี มีความคิดในใจตลอดเวลาว่า เมื่อไหร่จะรวยว้า… แต่ไม่เคยพูดออกมา แต่ก็ยังแต่งตัวภูมิฐานถ่ายรูปติดร้านอาหารหรูๆ เคสแบบนี้เคยมีผู้หญิงที่มีผู้ชายมาจีบเอารูปผู้ชายมาให้เว็บผมดู คือผู้หญิงอยากทราบว่าผู้ชายมีฐานะไหม พี่หมอเขาทำนายได้ถึงขนาดว่า ผู้ชายยังเครียดเรื่องการเงินแถมมีหนี้อีก คนจะดูภายนอกไม่ออกหาว่าเขารวย เห็นถึงขนาดที่ว่าเขามีลูกเมียแล้วด้วยซ้ำ ตามดวงชะตาเขา
เพราะจิตเขากังวนเรื่องเงิน คิดถึงหนี้สิน กระบวนการแบบนี้ทำให้ร่างกายเกร็งในบางส่วนเพื่อประกอบกับภาพในสมองเกี่ยวกับหนี้สิน (จิตกับกายผสานกันตลอดเวลา) ในช่วงระยะเวลานั้นจะปล่อยจิตในลักษณะ “การกังวนเรื่องเงิน” ออกมา ผู้ทำนายแบบ Psychic Reading จะสามารถอ่านจิตแบบนี้ได้อย่างแม่นยำ นี้คือกระบวนการย่อๆ ในการทำนายแบบ Psychic Reading
ต่อ พุฒาเวทย์