ดั่งที่ผมเกริ่นไปบ้างแล้วนั้นในบท “ความเป็นไป ไสยะ และดวงชะตา” เกี่ยวกับความรัก จะขยายความต่อไปอีกนิดให้นะครับ ในบท “ความเป็นไป ไสยะ และดวงชะตา” ผมสรุปว่า หน้าตาสถานะของคนอาจจะทำให้คุณสมหวังเรื่องความรักได้ชั่วขณะหนึ่งได้ แต่ความรักที่ยั่งยืนนั้นต้องมีคนที่ดวงจิตสมพงษ์กับเรา นอกจากนั้นดวงจิตของเราต้องไรจิตของเจ้ากรรมนายเวรที่แรงกล้ามาลบกวนเป็นพื้นฐานอยู่แล้วด้วย จะทำให้ความรักนั้น สดใส ยั่งยืน เชื่อหรือป่าวว่า โหราศาสตร์ที่บอกว่า วันเดือนปี นี้ไม่เข้ากัน ในหลายๆ ครั้ง ดวงที่ขัดแย้งกันตามวันเกิด กลับเป็นคู่อยู่กันยาวนานเรียกได้ว่าเป็น “คู่ชีวิต” ไม่ใช่คบๆ เลิกๆ เป็นช่วงๆ ที่อาจจะใช้แค่รูปร่างหน้าตา สถานะในการดึงดูดกัน เท่านั้น แต่ถ้าคุณมีจิตรักใครเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วต่อมาต้องเลิกกับคนรักตลอดเวลานั้น ดวงคุณมีปัญหาด้วยสาเหตุข้างต้นแล้วหละ
แล้วคนที่จะเป็นคู่ชีวิตกัน จะต้องเป็นเนื้อคู่กันทุกคนใช่ไหม คำตอบคือไม่ใช่ ดวงคนเรามีหลากหลาย การที่จิตเราจะสมพงษ์กับคนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ การทำงานกับเพื่อนร่วมงาน กับพ่อแม่ กับพี่น้อง รวมทั้งคนรัก จะต้องสมพงษ์กับเราถึงจะไม่มีปัญหา จะไม่ต่อต้านกันในแง่ของดวงจิต (บางครั้งตรรกะก็ไรเหตุผลที่จะอธิบายว่า เหตุใดคนสองคนถึงเข้ากันไม่ได้ หรือได้แค่บางช่วง) บางคนเป็นแฟนกันคบกันได้หลายปี แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป อาจเป็นเพราะดวงเขาสมพงษ์มาแล้วช่วงหนึ่งและผ่านช่วงนั้นมาแล้ว ดวงชะตาอีกฝ่ายไปสมพงษ์กับคนใหม่มากกว่า ก็เป็นได้ ในทางสังคม กรณีเลิกรากันมีหลายหลายปัจจัยมาก ดวงชะตาก็เป็นเหตุหนึ่ง ซึ่งต้องดูกันแล้วแต่กรณีไป ในศาสตร์ ”ไสยะ ทำนายทายทัก สำนักพุฒาเวทย์” สามารถทำนายได้ถึงสาเหตุนั้นๆ แบบเจาะจง อาจเช่น โดนทำของ ราศีดีกว่าเรา บ้านที่เราอยู่มีของไม่ดีบางอย่าง เป็นต้น ตลอดจนแนะนำให้อยู่ด้วยกันอย่างราบเรียบสมพงษ์ หรือเรียกให้คนรักกลับคืนมา
ในทางสังคมอีกเช่นกัน กระนั้นจะให้คนเรารอแต่เจอเนื้อคู่ของตนก็ใช่เรื่อง บางคนคบหากันหลายปี สร้างบ้านเงินผ่อน ผ่อนรถ ลงทุนร่วมกันหลากหลาย อยู่ ๆ จะให้เลิกรากันไปง่ายๆ โดยใช้เหตุผลว่าถือว่าดวงไม่สมพงษ์กันแล้วก็ไม่ถูกต้องตามวิถีของชีวิตมนุษย์เท่าใดนัก คำว่าปลง มันฟังดูดีและใช้ได้ก็จริง แต่จริงและใช้ได้สำหรับบางคนเท่านั้นจริงไหมครับ ก็ต้องแก้ปัญหากันหลากหลายวิธี ไสยศาสตร์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งถ้าคุณมีความเชื่อทางด้านนี้อยู่ พูดถึงไสยศาสตร์ ผมมีเรื่องเล่า ถือว่าเป็นกรณีศึกษาสั้นๆ นะครับ
มีทหารเกณฑ์คนหนึ่ง ไม่หล่อเลยสักนิด หน้าเป็นสิว ตัวดำๆ แต่เป็นแฟนกับลูกนายทหารใหญ่คนสวย แบบว่าสวยเลยหละ ผู้หญิงถึงกับจะฆ่าตัวตาย ถ้าทหารเกณฑ์คนนี้ไม่ไปหา ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ พี่หมอดูดวงให้แล้วบอกว่า
“ผู้หญิงคนนี้จะฆ่าตัวตายจริงๆ ถ้าทหารเกณฑ์ไม่ไปหา แบบนี้อันตรายนะ“
“ทหารเกณฑ์ มีของดี มีคนแก่ให้ของขลังมหาเสน่ห์บางอย่างกับมัน ทำให้มันราศีดี ถูกใจเพศตรงข้าม ทำให้ดวงเหนือกว่าผู้หญิง ถ้ามันไม่ไปหา เด็กผู้หญิงคนนี้ฆ่าตัวตายได้นะ”
พี่หมอต้องใช้พิธีไสยศาสตร์ ทำให้ของขลังของทหารเกณฑ์คนนั้นเสื่อม (ผมขอเล่าย่อๆ) พอของดีของทหารเกณฑ์คนนั้นเสื่อม จิตใจของผู้หญิงถึงเริ่มดีขึ้น อิทธิพลจากผู้ชายก็น้อยลง กรณีแบบนี้ดวงไม่ต้องสมพงษ์ อะไรกันเลย เพราะอีกคนมันเล่นของ(มีของดี) ทำให้คู่รักลืมมันไม่ได้ นอนหลับก็คิดถึง ตื่นนอนก็คิดถึง ต้องเจอให้ได้ อาจอยู่ในช่วงจิตอ่อนด้วย
จากกรณีนี้ผมกำลังบอกว่าไสยศาสตร์ของขลังเสน่ห์ มหานิยมบางอย่าง จะมีผลกับความรักและ เพศตรงข้ามด้วย นอกจากดวงสมพงษ์แล้ว
อีกกรณีนะครับ
ผมเคยเขียนเรื่อง ราศี ใน Puthsaiyavej.Bloggang.com หลายคนอาจจะได้ได้อ่านไปแล้วนะครับ ผมคงจะไม่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ถ้าใครอยากอ่านซ้ำก็สามารถเข้าไปใน Bloggang ได้เลยครับ ตรงนี้ผมจะเขียนเรื่อง….
“ราศีกับความรัก”
อีกอย่างหนึ่งในทางไสยศาสตร์นั้น การที่คนเราจะมีแรงดึงดูดกับคนอื่นๆ รวมทั้งคู่รักของเราด้วย ซึ่งเป็นแรงดึงดูดประเภทที่ดีที่จะทำให้คนรอบๆ ตัวเราปรารถนาดีกับเรารวมทั้งคนที่เรารักด้วย(ในทางธรรมะคือจิตเมตตา กรุณากับเรานั่นเอง)
คุณคิดว่าคนที่ หล่อ หรือ สวย ทุกคนเขาจะได้รับความเมตตา ปรารถนาดี จากคนทั่ว ๆ ไปรึป่าวครับ ผมไม่มีคำตอบที่แน่นอนให้นะครับ แต่คำว่าหล่อ สวย เป็นเรื่องของยุค สมัย และตีความรำบากเพราะมันอยู่ที่ความชอบของคนที่จะตอบคุณ ว่าเขาชอบคนหล่อ คนสวย แบบไหน อย่างพระเอกหนังคนเดียวกัน ถ้าถามผู้หญิงหลายๆคนว่าหล่อไหม คุณจะได้คำตอบที่หลากหลายแน่นอน จริงไหมครับ
เอาหละที่ลึกซึ้งกว่าคำว่า “สวย” คำว่า “หล่อ” นั้น คือ “ราศี” นั่นเอง เพราะในทางไสยศาสตร์ จะมีการเสริมราศีกันเยอะมาก อย่างเช่น เสกแป้ง เสกน้ำมัน ลงนะ ของขลังต่างๆ ฯลฯ. (เป็นการเสริมดวงอย่างหนึ่ง) สง่าราศี ทำให้คุณดูดีได้ ซึ่งไม่ได้จำแนกตามคำว่าสวยหรือหล่อ แต่ทรงอิทธิพลมาก ผมจะเล่าอะไรให้ฟังอีกสักอย่าง
เคยมีนักศึกษาคนหนึ่งเป็นผู้ชายมาดูดวง เขาพึ่งข้ามหา’ลัย อยู่ระหว่างการรับน้อง ปัญหาของเขาคือ โดนรุ่นพี่แกล้ง และแกล้งเยอะกว่าคนอื่นๆ จริงๆ การถูกแกล้งจากรุ่นพี่ในการรับน้องเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีของนักศึกษาคนนี้ต้องใช้คำว่า “กลั่นแกล้ง” ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
พี่หมอบอกว่า “ราศี” ของ น.ศ. คนนี้ไม่ดี พวกรุ่นพี่มองดูราศีเขาแล้ว อยากกลั่นแกล้งซ้ำเติม แบบว่า มองหน้าแล้วไม่ชอบหน้า อยากจะจับมาแกล้งตลอดเวลา นศ. คนนี้เครียดมาก พี่หมอเลยให้เอาแป้งมาปลุกเสก พี่หมอลงคาถาที่แป้ง เป็นการสวดราศี ทำราศี ลงคาถาราศีที่แป้ง แล้วให้นักศึกษาคนนี้ไปทาหน้า
คุณเชื่อไหม เมื่อพอเจอรุ่นพี่ รุ่นพี่มองหน้า แล้วเฉยๆ ทักทายปกติ ไม่มองหน้าเขาแล้วหงุดหงิดเหมือนเคย ทุกอย่างดีขึ้นจนเขาต้องโทรมาขอบคุณพี่หมอ และคนที่เคยเพิ่มราศี เสริมราศีโดยพิธีไสยศาสตร์นั้น ที่ผมเคยเห็นมา บางคนโดนคนอื่นมองแบบยิ้มๆให้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บางคนทำให้การทำงาน เพื่อนร่วมงานในออฟฟิตดีขึ้น ได้รับความเคารพมากขึ้น เคยมีคนมาเสริมราศีบางคนเป็นผู้หญิง พอทำราศีเสร็จเธอไปเที่ยวต่อที่ ภูเก็ต แล้วไปเจอ ผู้ชายต่างชาติ เป็นทหารหรือตำรวจนี่เหละ มาจีบและเลี้ยงดูเธอ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปเลย ซึ่งหน้าตาเธอออกจะธรรมดามาก
พูดถึงเรื่องราศีกับความรักแล้ว เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันอย่างแรง(มาก)ครับ ผมจะเล่าให้ฟัง
สาเหตุที่ผู้ชายมาจีบผู้หญิง เพราะผู้หญิงเป็นคนดี เรียบร้อย ใช่ไหมครับ? นี้ใช่เป็นสาเหตุที่ผู้ชายทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะผู้หญิงเป็นคนดีคนเรียบร้อย รึป่าว? คำตอบคือ “ใช่” แต่น้อยกว่า ผู้หญิง “สวย” หรือ “น่ารัก” “เซ็กซี่” มากจริงไหม? คุณยอมรับความจริงข้อนี้?
อย่างนั้นถ้าคุณสวย ก็จะโดนผู้ชายมาจีบบ่อยๆ มาทุ่มเทให้คุณมากๆนะสิ? คำตอบคือ “ใช่” และถามอีกว่า ถ้าคุณสวยคุณจะมีความรักที่ดี ที่ยั่งยืน นะสิ คำตอบคือ “ไม่” ตลอดชีวิตการดูดวงของผม คนสวยอกหักมากพอๆ กับผู้หญิงหน้าตาธรรมดา โดนหลอกฟันบ้าง ผู้ชายสนใจ ใส่ใจแค่ช่วงแรก ๆ บ้าง ฯลฯ ดวงความรักของคนนั้น รูปร่างหน้าตา มันจะทำให้คุณได้เปรียบไปสักพักนึง และเป็นดาบสองคมเพราะทำให้คนเข้ามาหวังเพียงร่างกายแล้วจากไปด้วยข้ออ้างต่างๆ
คุณเคยได้ยินคำว่า “เมตตามหานิยม” บ่อยๆ ใช่ไหม ผมจะพูดให้ชัดเจนให้ท่านฟังนิดนึงว่า “เมตตามหานิยม” เป็นผลมาจาก ราศีที่ดี ซึ่งราศีที่ดีมีอยู่ตามธรรมชาติของคนบ้างแล้ว ซึ่งบางคนอาจราศีไม่ดีเลยก็มี หรือบางคนสวยแต่ราศีไม่ดี บางคนหล่อแต่ไม่มีราศีก็เยอะ
บางคนไม่ได้จัดอยู่ในคำว่าสวย ว่าหล่อแต่ ทำไมหน้าตา น่ามองจัง มองแล้วมองอีก มองยังไงก็ไม่เบื่อ ทำไมเขามีเสน่ห์ขนาดนั้น เพราะนั่นเป็นราศีที่ดีตามธรรมชาติของเขา ส่วนไสยศาสตร์การเสริมราศีนั้น จะทำให้คนที่ราศีไม่ดี หรือราศีดีพอใช้ได้ เป็นคนที่มีเสน่ห์มากขึ้น(โดยผ่านของขลังหรือพิธีทางไสยศาสตร์) ทำให้คนรอบข้างมองดูว่าเรามีเสน่ห์ เกิดความปรารถนาดีกับเรา อยากให้สิ่งดีๆกับเรา ไม่คิดร้ายกับเรา หรือมองหน้าเราแล้ว เก็บเอาไปฝัน ภาพติดตา ตื่นขึ้นมายังนึกถึง หลงเสน่ห์หัวปักหัวปำ ไปจนถึงอยู่ไม่ติดเมื่อไม่ได้เจอ ใครพูดถึงเราในทางไม่ดี เขาจะด่าแทนให้ ฯลฯ
ถ้าผู้ชายทั่วไปมองผู้หญิงโดยปกติอาจจะคิดหวังร่างกาย แต่เมื่อหญิงผู้นี้ได้เสริมราศีโดยพิธีไสยศาสตร์ทำให้เกิดเมตตามหานิยมแล้วนั้น เมื่อผู้ชายหรือคนทั่วไปมองมาจะเกิดเมตตา อยากจะช่วยเหลือ ให้สิ่งดีๆ ต่อผู้หญิงคนนี้แทนที่จะหวังฉาบฉวยร่างกาย ( จริงๆ แล้ว การทำราศีให้เกิดเมตตามหานิยมมีหลายแขนง ซึ่งผมจะไม่ลงรายระเอียดนะครับ) ไสยศาสตร์การเสริมราศี จะมีผลกับชีวิตคนหลายๆ รูปแบบ ความรัก การงานด้วย มันจะสร้างความได้เปรียบให้กับเรา ในพิธีไสยศาสตร์การทำเสน่ห์ ดึงจิตนั้น ก็ยังมีการทำราศีเพื่อให้มีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม มีผลกับสามี คนรัก แฟน ซึ่งหน้าตาเป็นองค์ประกอบของความรัก(หน้าตาที่มีเสน่ห์) มากกว่าปัจจัยอื่น เพราะคนเรายังดำรงอยู่ควบคู่กับกิเลส ไสยศาสตร์นั้นลึกซึ้งกว่าคติที่ว่า “คนจะงาม งามที่ใจใช่ใบหน้า” ไสยศาสตร์เป็นเรื่องของจิตที่ลึกซึ้ง เข้าถึงความต้องการของคนในระดับจิต
เอาหละ มาคุยกันอีกมุหนึ่งของไสยศาสตร์การเสริมราศีนะครับ มันจะลึกซึ้งกว่าการเสริมสง่าราศีให้ใบหน้าและตัวคุณมีเสน่ห์ แต่หัวข้อนี้ยาวมากแล้ว ผมจะขึ้นหัวข้อใหม่ ด้านบนเลยครับ เรื่อง “ราศีกับเจ้าที่”
ต่อ พุฒาเวทย์